อิ่มทุกเมนูในราคาสบายกระเป๋า ที่...Hen Sarang ณ ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี

" จิ้มเข้ากับซัมจัง ซึ่งเป็นน้ำจิ้มที่ทำมาจากถั่วหมักผสมเข้ากับพริก กระเทียม หอมย่าง กิมจิ ต้นหอมยำ น้ำส้มสายชู รสชาติที่ได้ออกเปรี้ยวนิดๆ กลิ่นขึ้นจมูกหน่อยๆ ดึงดูดรสชาติได้อย่างดีทีเดียวทางที่ดีห่อด้วยผักกาดขาว สอดใส้กันด้วยกิมจิอีกนิด พริกอีกหน่อย กระเทียมโทนหั่นกลีบบางๆ หอมใหญ่พันๆ เข้าด้วยกันแล้วจัดการส่งเข้าปาก คำเดียวได้ใจกันสุดๆ" จะด้วยเพราะซีรีย์ หรือ เหล่าบอยแบรนด์จากแดนกิมจิทั้งหลาย ที่ออกมาทำเอาหลายคนติดกันไปงอมแงม ส่งผลให้อาหารเกาหลีในบ้านเราก็ยังคงอินตามกระแสกันไม่มีตก

วันนี้แม่รำเพยกับป้าอบเชยเลยแวะมาดื่มด่ำกับอีกหนึ่งรสชาติของเกาหลีที่ ต้องบอกว่ามีเสน่ห์กันสุดๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการกินนี่ต้องบอกว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มี วัฒนธรรมในการรับประทานอาหารได้น่าสนใจมากๆ อย่างการจัดเรียงบนโต๊ะนั้นก็ดูสวยงามมีสีสันน่าทานกันสุดๆ ซึ่งจุดเด่นในการตั้งโต๊ะอาหารเกาหลีคืออาหารจานต่างๆ จะถูกนำมาจัดวางในคราวเดียวกันอย่างแรกเลยก็กิมจิหรือถ้าจะให้เรียกแบบได้ อารมณ์เกาหลีหน่อยก็ต้องเป็น "คิมชิ" ซึ่งในบ้านเราจะเรียกแบบไหนก็ได้ แต่ถ้าเรียกว่าคิมชีพนักงานอาจงงเล็กน้อย กลับกันถ้าไปที่เกาหลีแล้วออกเสียงกันเต็มปากว่ากิมจิ ก็คงจะมึนกันไปข้างเหมือนกัน เอาเป็นว่า เอาตามสะดวกแต่ล่ะพื้นที่แล้วกันนะคะ

ซึ่งพูดถึงกิมจินั้นมันคือผักดองปรุงรสนั่นเอง อยากจะดองอะไรก็แล้วแต่ ทั้งแตงกวา มะละกอ หัวไชเท้า แครอท ผักกาดขาว ถั่วงอก ฯลฯ เรียกว่าผักเกือบทุกชนิดสามารถมาเสกสรรปั้นแต่งเป็นกิมจิเย็นๆ ที่มีสีสันโหดได้ใจแต่รสชาติเมื่อทานเข้าไปกลับได้มาแต่ความเย็นสดชื่นขึ้น มาทันทีเชียวค่ะซึ่งระยะเวลาในการหมักนั้นก็ไม่นานซักเท่าไหร่เพราะถ้าหมัก นานเกินไปรสก็จะเปรี้ยวเกินกว่าที่จะมาเป็นเครื่องเคียงได้ จนต้องผันตัวเองไปเป็นกับข้าวอย่างอื่นแทน อย่างเช่นแกงกิมจิหรือกิมจิชีเกซึ่งมีรสชาติคล้ายกับแกงส้มบ้านเรานั่นแหล่ะ ค่ะแต่อาจจะแตกต่างกันนิดหน่อยตรงความจัดจ้านของรสชาติค่อนข้างที่จะซอฟกว่า บ้านเรา

และที่นี่ Hen Sarang ซึ่งแปลไปประมาณว่า "ฉันรักเกาหลี" หรือ "เกาหลีที่รัก" อะไรประมาณนั้นที่วันนี้แม่รำเพยกับป้าอบเชยได้มีโอกาสแวะเวียนไปเยี่ยม เยียนกัน ไม่ใกล้ไม่ไกลค่ะเรียกว่าไปมาสะดวกกันเลยทีเดียว บนถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 7 หลังฟ้าธานีซึ่งนอกเหนือจะเป็นร้านอาหารแล้วที่นี่หลักๆ เลยที่นี่เป็นศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี หรือ Korean Cuture Center Chiangmai ที่เปิดให้บริการคำปรึกษาสำหรับผู้ที่สนใจอยากจะไปเที่ยวที่เกาหลีแล้วพัก กันแบบโฮมสเตย์ในราคาประหยัดหรือจะมาเรียนภาษากันที่นี่กับอาจารย์ผู้สอนจาก เกาหลีผู้มากประสบการณ์กันโดยตรงก็เข้ามาติดต่อขอทราบรายละเอียดกันได้นะคะ

ส่วนใครที่อยากหาของอร่อยๆ ทานก็ตามแม่รำเพยกับป้าอบเชยมากันได้เลยซึ่งพูดถึงที่นี่บรรยากาศโดยทั่วไป ค่อนข้างสบายๆ กับพื้นที่เปิดโล่งลานกว้าง ดูโปร่งตา น่าสนใจโดยเฉพาะเจ้าชิงช้าทรงไข่ที่แขวนอยู่ทางด้านหน้านี่ทำเอาแม่รำเพยกับ ป้าอบเชยอดที่จะไปนั่งแอ๊บแบ๊วกันไม่ได้เชียว

สำหรับรายการอาหารที่นี่นั้นก็มีค่อนข้างหลากหลายออกแนว อินเตอร์เนชั่นแนลกันเลยทีเดียว ซึ่งหลักๆ นั้นแน่นอนว่าต้องเป็นอาหารเกาหลี ซึ่งก็มีทั้ง หมูย่างเกาหลีที่นำเอาเนื้อหมูติดมันมาสไลซ์เป็นแผ่นบางๆ เรียงรายไว้อย่างสวยงาม ย่างบนกระทะร้อนๆ พื้นนูนขึ้นมาเพื่อให้ไขมันไหลหลงไปตามช่องรูปร่างสีสันที่ได้คล้ายกับเบคอน ย่างร้อนๆ กันเลยทีเดียว เวลาทานนั้นก็ทานกันได้หลายแบบแต่ถ้าจะให้ดี จิ้มเข้ากับซัมจัง ซึ่งเป็นน้ำจิ้มที่ทำมาจากถั่วหมักผสมเข้ากับพริก กระเทียม หอมย่าง กิมจิ ต้นหอมยำ น้ำส้มสายชู รสชาติที่ได้ออกเปรี้ยวนิดๆ กลิ่นขึ้นจมูกหน่อยๆ ดึงดูดรสชาติได้อย่างดีทีเดียวทางที่ดีห่อด้วยผักกาดขาว สอดใส้กันด้วยกิมจิอีกนิด พริกอีกหน่อย กระเทียมโทนหั่นกลีบบางๆ หอมใหญ่พันๆ เข้าด้วยกันแล้วจัดการส่งเข้าปาก คำเดียวได้ใจกันสุดๆ

หรือจะเลือกเป็นแบบรักสุขภาพก็ต้องเป็น ซัมเกยทัง หรือไก่ตุ๋นโสมที่ว่ากันว่าช่วยเพิ่มกำลังวังชากันได้เพียบเลยทีเดียว ซึ่งต่างจากไก่ตุ๋นยาจีนอย่างที่เราเคยๆ กินกันทั้งรสชาติและวัตถุดิบในการทำ โดยเฉพาะโสมเกาหลีที่มีชื่อเสียงรู้จักกันไปทั่วโลก โดยโสมถูกจัดเป็นยาที่ ใช้รักษาสุขภาพของชนชาติตะวันออกมาตั้งแต่อดีตกาล แม้ชาวจีนเองก็ยังยอมรับว่า "โสมเกาหลี" เป็นสุดยอมของโสม โดยได้รับการวิจัยอย่างทุ่มเทมากที่สุดในบรรดาสมุนไพรทั้งหลายทั้งปวงซึ่ง วิธีการทานนั้นต้องเริ่มต้นด้วยการซดน้ำซุปให้ได้รสชาติก่อนจากนั้นก็แหวะ ตัวไก่ออกคุณผู้อ่านก็จะเห็นข้าวหมักซึ่งเป็นข้าวเหนียวเนื้อนุ่มอัด แน่นอยู่ภายในทานแล้วรู้สึกร้อนรุ่มเหมาะกับช่วงหน้าหนาวอย่างนี้เป็นอย่าง ดีทีเดียวค่ะเรียกว่าน่าสนใจกันทุกเมนู ไม่เพียงเท่านี้ ที่นี่ยังมีอีกหลายรายการที่น่าสนใจอาทิข้าวผัดกิมจิ ข้าวห่อสาหร่ายเกาหลี ซุปกิมจิ บิบิมบ๊อบ คอคคัลบี ฯลฯ

หรือจะเป็นสเต็กแบบยุโรปแต่ก็มีรสชาติกลิ่นอายแบบเกาหลีกับ Hen Sarang สเต็ก ราดด้วยซอสเกาหลีรสชาติออกติดเปรี้ยวนิดๆ หวานหน่อยๆ เคียงคู่มากับผัดผักพอสะดุ้งแก้เลี่ยนได้ดีทีเดียวส่วนอาหารญี่ปุ่นหลักๆ เลยก็จะเป็นซูชิ ราเมน หรือโซบะ ซึ่งน่าสนใจไม่แพ้กันโดยเฉพาะโซบะเย็นที่วันนี้แม่รำเพยกับป้าอบเชยเลือกมา ฝากคุณผู้อ่านกันซึ่งเจ้าโซบะเย็นนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูเด่นของอาหาร ญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว จริงๆ โดยเฉพาะซอสทสึยุ หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่าโชยุหวานแช่กันมาเย็นๆ กับเส้นโซบะเนื้อเด้งดึ๋งเต็มปากเข้มข้นได้ใจ ถือเป็นเมนูสำหรับหน้าร้อนเพราะด้วยรสชาติที่เย็นสดชื่น หน้าหนาวนี่อาจทำให้ขนลุกกันได้แต่ก็คุ้มที่ได้ลอง

ใครที่สนใจก็ก็สามาถแวะมาใช้บริการกันได้ทุกวันนะคะกับที่ นี่ Hen Sarang ณ ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี บนถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 7 หลังฟ้าธานีแถมช่วงนี้ที่นี่มีโปรโมชั่นอิ่มไม่อั้นทุกวันศุกร์ตั้งแต่ 19.00 - 22.00 น.ใครที่สนใจก็แวะมาใช้บริการกันได้นะคะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่ 0-5321-0723.

ข้อมูลจาก : เชียงใหม่นิวส์ค่ะ
travel and food,Thailand