ครบเครื่องเรื่องเส้นในราคาบุฟเฟ่ต์ที่...เชียงใหม่ เส้นสด
แง๊ ๆๆ เจองานด่วนอีกแว้วว เฮ้ยย เหนื่อยจริ๊งจริง ช่วงนี้ ให้งานวันนี้เย็นจะเอาพรุ่งนี้ก่อนเที่ยงงิ หุหุ ปั่นแทบตาย เฮ้ยย อดมาเขียนบล็อคเลย ไม่รุ้จะโม้ไรดี คิคิ เอาข้อมูลร้านอาหารในเชียงใหม่ดี ๆ มาฝากก็แล้วกันนะคะ
"ด้วยการให้บริการแบบบุฟเฟ่ต์ ทานกันได้ไม่อั้นในราคาเพียงแค่ 49 บาทเท่านั้นซึ่งนอกเหนือจากขนมจีนที่มีน้ำแกงให้เลือกกันถึง 8 รสชาติ ทั้งน้ำยากระทิที่มีเนื้อปลาข้นๆ รสชาติเข้มๆ เค็มมัน ลงตัว เวลาทานกับเส้นขนมจีนที่พิเศษกว่าที่อื่นตรงที่เป็นเส้นที่สดกันสุดๆ เรียกว่าทำสดๆ แทบจะจานต่อจานเลยก็ว่าได้ด้วยการทำโชว์กันสดๆ บีบกันให้เห็นๆ เลยว่ากว่าจะมาเป็นเส้นขนมจีนที่ทานกันอยู่นั้นออกมายังไง"
ถ้าให้พูดถึงอาหารที่กินง่ายๆ หาทานได้ไม่ยาก และก็ถูกปากคนไทย กินกันได้ทุกวัยแม่รำเพยกับป้าอบเชยคิดว่าอาหารประเภทเส้นๆ น่าจะเป็นอะไรที่คุ้นเคยกันมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ข้าวซอย ก๋วยเตี๋ยว หรือแม้แต่ขนมจีน เรียกว่ามีกับทุกย่อมหญ้ากันเลยทีเดียว
แต่ละที่แต่ละร้านก็มีรสชาติเป็นเอกลัษณ์ของตัวเองอย่าง ก๋วยเตี๋ยวบางที่ก็จะเน้นก๋วยเตี๋ยวปลารสชาติจัดจ้าน บางร้านก็กลางๆ เน้นกุ้งเน้นปลาเน้นลูกชิ้น หมู เนื้อ ก็แล้วแต่กันไป ส่วนขนมจีนซึ่งวันนี้แม่รำเพยกับป้าอบเชยนำมาแนะนำกับคุณผู้อ่านกันนั้นก็มี ให้เลือกกันหลากหลายแบบ นอกเหนือจากเส้นขนมจีนที่แตกต่างกันไปอย่างบางทีก็จะเป็นเส้นขนมจีนธรรมดา แบบแป้งหมักกันเป็นจับ บางที่ก็ทำกันแบบสดๆ ม้วนกันเป็นก้อนกลมๆ ใส่สีสันม่วงๆ เหลืองๆ สลับกับเส้นสีขาวปกติช่วยเพิ่มอรรถรสทางสายตาไปได้อีกมากเลยทีเดียวค่ะ
อีกตัวที่สำคัญสำหรับขนมจีนก็คือในเรื่องของน้ำแกง นั่นเองค่ะ ที่นิยมสุดๆ ก็เห็นจะเป็นน้ำยา น้ำพริก แกงเขียวหวาน ส่วนบ้านเรานี่ก็ต้องเป็นน้ำเงี้ยว แต่จริงๆ แล้วเครื่องแกงที่ทานกับขนมจีนนั้นยังมีอีกเพียบอย่างที่ร้านนี้ "เชียงใหม่-เส้นสด" ทางเข้าอาเขตอินน์
ด้วยการให้บริการแบบบุฟเฟ่ต์ ทานกันได้ไม่อั้นในราคาเพียงแค่ 49 บาทเท่านั้นซึ่งนอกเหนือจากขนมจีนที่มีน้ำแกงให้เลือกกันถึง 8 รสชาติ ทั้งน้ำยากระทิที่มีเนื้อปลาข้นๆ รสชาติเข้มๆ เค็มมัน ลงตัว เวลาทานกับเส้นขนมจีนที่พิเศษกว่าที่อื่นตรงที่เป็นเส้นที่สดกันสุดๆ เรียกว่าทำสดๆ แทบจะจานต่อจานเลยก็ว่าได้ด้วยการทำโชว์กันสดๆ บีบกันให้เห็นๆ เลยว่ากว่าจะมาเป็นเส้นขนมจีนที่ทานกันอยู่นั้นออกมายังไงกับแป้งข้าวเจ้า ที่ผสมน้ำคลุกเคล้าเข้ากันเติมสีสันด้วยน้ำดอกอัญชัญที่ให้สีม่วงอ่อนๆ กับน้ำขมิ้นที่ให้สีเหลืองจางๆ เพิ่มสีสันชวนทานตักน้ำยาราดผสมกับผักสดทั้งหัวปลี ถั่วฝักยาว ถั่วพู ถั่วงอก ฯลฯ
หรือจะเลือกเป็นน้ำยากระทิใต้ที่คล้ายกับน้ำยากระทิแบบภาคกลาง แต่ที่แตกต่างกันก็ตรงเครื่องปรุงบางตัวอย่างขมิ้นและผิวมะกรูดซึ่งหากเป็น น้ำยากะทิก็จะเป็นกระชายรสชาติที่ได้ก็คล้ายๆ กันแต่กลิ่นที่ได้จะแปลกกว่าได้รสปักษ์ใต้กันไปเต็มๆ เชียวค่ะหรือจะเป็นสุดยอดแกงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดด้วยรสชาติที่กลม กล่อม จัดจ้าน หวานนิดๆ เค็มหน่อยๆ กับแกงเขียวหวานไก่ก็น่าสนใจไม่เบา
ส่วนใครที่ชอบน้ำเงี้ยวเมื่อไหร่ๆ ก็ต้องน้ำเงี้ยวที่นี่ก็ไม่มีพลาดอลังการครบเครื่องโดยเฉพาะเลือดหมู ต้มสุกที่หั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยลอยฟ่องเต็มหม้อ มาพร้อมๆ กับซี่โครงหมูที่สับมาเป็นชิ้นๆ เนื้อหลุดล่อนอย่างง่ายๆ รสออกเค็มนิดๆ ติดปากหรือจะเป็นแกงไตปลาที่ให้รสเผ็ดได้ใจว่ากันว่าแกงไตปลานี่ต้องเผ็ดๆ กันนิดหนึงเพื่อที่จะได้ไม่คาวที่สำคัญรสเผ็ดยังช่วยทำให้น้ำแกงรสชาติเข้ม ข้นและกลมกล่อมขึ้นกินกับผักสดนี่เข้ากันได้ดีทีเดียวค่ะแต่ถ้าไม่ชอบรสจัด ชอบแบบหวานๆก็ต้องเป็นน้ำพริกแต่ถ้าชอบแบบแปลกๆ ยังไม่เคยลิ้มลอง ลองเลือกน้ำยาเนื้อปูทะเลมาทานดูก็ได้นะคะรูปร่างสีสันนี่คล้ายกับน้ำยากระ ทิใต้เลยแต่รสชาติจะนุ่มกว่าอาจจะด้วยเนื้อปูม้าที่ผสมคลุกเคล้าเป็นวัตถุ ดิบสำคัญเหมือนกับน้ำยาปูแต่ต่างตรงที่ที่นี่เค้าเป็นเนื้อปูม้าเท่านั้นเอง ค่ะ
นอกจากนี้ในส่วนของบุฟเฟ่ต์ที่นี่ใช่ว่าจะมีแค่ขนมจีนกับน้ำยา 4 ภาค 8 ชนิดเท่านั้นเมนูที่แม่รำเพยกับแม่อบเชยขอแนะนำว่าพลาดไม่ได้เลยทีเดียวกับ "ผัดไทย" และ "ผัดหมี่ซั่วแบบใต้" ที่ให้คะแนนกันไปเต็มๆ ด้วยเส้นที่เหนียวนุ่มรสชาติที่กลมกล่อม เปรี้ยว หวาน มันเค็ม โรยหน้ากันด้วยถั่วป่นหอมๆ ที่ปั่นกันสดๆ พริกป่นอีกนิด ทานกับต้นหอมสดๆ รสชาติเกินบรรยายจริงๆ ค่ะ ส่วน ผัดหมี่ซั่วแบบใต้ก็ฉีกแนวหมี่ซั่วที่เราคุ้นเคยด้วยรสชาติที่เข้มข้นออก เผ็ดนิดหน่อยเวลาเคี้ยวสัมผัสได้ถึงความนุ่มเหนียวหนึบของเส้นผสานเข้ากับรส ชาติเน้นๆ มาแล้วไม่ได้ทานนี่เสียใจแย่เลยค่ะ
ส่วนของหวานก็มีลอดช่องหอมๆ ที่ทำกันสดๆ เช่นเคยโรยด้วยน้ำกะทิหรือจะเลือกเป็นผลไม้สดที่มีให้ทานกันตามฤดูกาลก็แล้ว แต่ชอบค่ะ เอาเป็นว่าใครที่สนใจก็ลองแวะมาทานกันได้ทุกวันจันทร์- วันเสาร์ ตั้งแต่ 10.30 - 15.00 น. กับราคาเบาๆ ที่ให้คุณผู้อ่านทานได้ทุกอย่างในร้านจ่ายราคาเดียวแค่ 49 บาทเท่านั้น แต่มีเรื่องต้องแจ้งกันนิดหนึงค่ะสำหรับใครที่จะแวะไปใช้บริการที่ร้าน "เชียงใหม่-เส้นสด" วันนี้ พี่อุราลักษณ์ ชูติวัติ เจ้าของร้านใจดีที่ยิ้มหวานให้บริการแถมยังเป็นคนปรุงน้ำแกงแต่ละรายการด้วย ตัวเองอีกด้วย แจ้งเข้ามาเพิ่มเติมนิดหนึงค่ะ ว่า เนื่องจากมีจำนวนผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นทำให้จำนวนโต๊ะไม่เพียงพอ ดังนั้นในวันที่ 14- 25 มีนาคมนี้ทางร้านก็จะหยุดให้บริการกันชั่วคราวเพื่อขยายพื้นที่แต่หลังจาก นั้นก็จะเปิดให้บริการกันเช่นเคย เอาเป็นว่าใครที่สนใจก็สามารถโทรศัพท์ไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ค่ะ ที่ 0-8199-2812-5.
travel and food,Thailand
Post a Comment
Post a Comment